“ทากะ แต่งงานกันเถอะ” เพียงประโยคเดียวที่ทำให้ทั้งสองได้มาใช้ชีวิตภายใต้ชายคาเดียวกัน ความสัมพันธ์ร่วมสิบเอ็ดปีของพวกเขาได้หยั่งรากลึกสู่จิตใจของทั้งสองจนมิอาจมีใครสามารถทำลายมันลงได้ มันเป็นความรักที่ไม่รีบเร่ง พวกเขาไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องทำให้ทุกอย่างมันกระชับไปเสียหมด ทว่าพวกเขาเลือกที่จะค่อยๆ สานความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งให้เพิ่มพูนขึ้นทีละเล็กทีละน้อย ปล่อยให้มันผลิดอกออกผลที่งดงามให้ชื่นชมในเวลาที่เหมาะสม เสียงระฆังที่ก้องกังวาลเป็นสัญญาณแห่งการเริ่มต้นวันข้างหน้า พวกเขาจุมพิตกันท่ามกลางกลุ่มเพื่อนสนิทที่มาร่วมแสดงความยินดี โทรุสอดแหวนวงเล็กที่นิ้วนางของทากะ มันสะท้อนแสงวาววับหยอกล้อกับแสงไฟจากแชนเดอเลียร์บนเพดานโบสถ์ น้ำตาแห่งความปีติพรั่งพรูออกมาอย่างไม่ระอา ทอม โบเด็ตต์ได้กล่าวไว้ว่า “มนุษย์ต้องการเพียง 3 สิ่งเพื่อที่จะมีความสุข ใครสักคนให้รัก อะไรบางสิ่งให้ทำ และอะไรบางอย่างให้ได้หวัง” และตอนนี้ทากะมีทุกอย่างแล้ว เขาเป็นคนที่มีความสุขที่สุดบนโลกใบนี้ มีคนกล่าวว่าช่วงปีแรกของการแต่งงานเป็นช่วงเวลาที่หอมหวานที่สุด เขาไม่รู้หรอกนะ แต่ถ้าเป็นคืนแรกน่ะคงจะใช่ เสียงลมหายใจที่หอบกระหายภายใต้สัมผัสแรกที่ร้อนระอุ มันช่างเย้ายวนและเชิญชวนให้โทรุไล้ปลายนิ้วไปตามผิวขาวๆ นั่นมากยิ่งขึ้น เขาไม่เคยรู้สึกเสียดายเลยที่ไม่ยอมยื่นมือไปแตะต้องคนรักของเขาก่อนหน้านี้ เพราะสิ่งที่บ่มเพาะเอาไว้จนถึงบัดนี้ทำให้เขากลายเป็นปีศาจที่โหยหาความรัก และมันก็ไม่ได้แย่ไปสักเท่าไรเมื่อดูจากปฏิกิริยาจากอีกฝ่าย “ร้อน…” เมื่อริมฝีปากผละออกจากกันคำพูดบ่นอุบอิบของคนข้างใต้ก็ดังขึ้น โทรุหลุดขำออกมา แม้กระทั่งตอนนี้ ทากะก็ยังบ่นไม่หยุดเหมือนเคย นี่แหละทากะที่เขารู้จัก นี่แหละทากะคนที่เขารัก “ไม่ร้อนสิแปลก” เขาตอบกลับไป ก่อนที่จะขบเข้าที่ต้นคอเป็นการหยอกล้ออีกฝ่าย “ร้อนอย่างกับอยู่ในนรก” “งั้นฉันจะพานายขึ้นสวรรค์เอง ทากะ” เมื่อเขารับปากไปแบบนั้นแล้ว มีหรือจะไม่ทำตามคำพูด… Continue reading 【เรื่องที่สี่】 Wedding Ring